ทริปนี้เป็นอีกทริปหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ความที่ผมประทับใจบ้านรวมไทยหรือปางอุ๋งที่ใครๆในขณะนี้รู้จักกันมากขึ้นแล้วในปลายปี
46 ทำให้เกิดทริปนี้โดยมีเวลาแค่ 2 วันคือเสาร์-อาทิตย์ที่
19 และ 20 กุมภาพันธ์ ต้นปีที่ผ่านมา จึงเจาะจงเฉพาะบ้านรวมไทยอย่างเดียว
แต่เพื่อเป็นการลดระยะเวลาการเดินทาง ทำให้ต้องใช้บริการ
Low Cost รายหนึ่งจากกทม.มายังเชียงใหม่ และนั่งเครื่องการบินไทยจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนอีกทีหนึ่ง
วันนั้นสายการบิน Low Cost ที่ผมนั่งดีเลย์
1 ชม. ดีที่เวลาเครื่องจากชม.ไปแม่ฮ่องสอนออกช้ากว่าเครื่องที่ไปถึงพอประมาณ
ทำให้การต่อเครื่องครั้งนี้หวุดหวิดทีเดียว
ได้เวลาเครื่องออกแล้วครับ เสียงเจ้าหน้าที่เรียกเพื่อเช็ค
boarding pass ตามเวลาที่เครื่องออกประมาณ 9.00 น.
เครื่องที่จะพาเราบินไปเมืองสามหมอกซึ่งจะผ่านขุนเขาอันมากมายนี้เป็นเครื่องแบบใบพัด
ผมเองไม่มีความรู้เรื่องเครื่องบินเลยไม่ทราบว่ารุ่นอะไร
เที่ยวบินนี้มีชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่ คนไทยเองประปราย ชาวต่างชาติที่ว่าพอฟังสำเนียงการคุยก็ทราบได้ว่าเป็นชาวฝรั่งเศส
มากันเป็นคณะท่องเที่ยว
เส้นทางนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที อากาศเช้ายามนี้ทำให้มองลงไปเห็นสายหมอกปกคลุมผืนเขาเต็มไปหมด
ขุนเขาน้อยใหญ่เรียงตัวสูงบ้างต่ำบ้าง พอไกลออกไปก็จะเห็นสายหมอกที่ปกคลุมไว้
9:32 นาที เครื่องบินแบบใบพัดก็เตรียมพาเราบินลงจอดที่สนามบินแม่ฮ่องสอน
นอกหน้าต่างมองเห็นทางหลวงหมายเลข 108 และบ้านเรือนรอบค้างอย่างชัดเจน
ลงจอดแล้วครับ มองจากสนามบินด้านบนเขาจะเห็นพระธาตุดอยกองมูตั้งเด่นเป็นสง่า
เราเดินดุ่มๆเข้ามาภายในตัวอาคารผู้โดยสารขาเข้าของสนามแม่ฮ่องสอนแห่งนี้ โดยรอบตกแต่งสวยงามตามสถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่ที่ฝังรากลึกในเมืองสามหมอกแห่งนี้
ใครคุ้นเคยกับแม่ฮ่องสอนมาก่อนก็จะทราบว่า
สนามบินนั้นอยู่ติดกับตัวเมืองเลย จึงไม่จำเป็นที่จะว่าจ้างรถถ้ายังมีกำลังขาอยากออกกำลังกายตอนสายๆแบบนี้
เราจึงเลือกที่จะเดินมายังตัวเมืองผ่านตลาดเช้า หาอะไรรองท้องก่อนจะเดินต่อไป
ป้ายบอกทางไม้แบบนี้ ถ้าใครขับรถมาจะรู้ได้ว่ามองลำบากมาก
เพราะตัวหนังสือและสีพื้นตัดกันไม่ชัดเจน จากป้ายเราเดินเลี้ยวขวาเพื่อไปยังตลาดสด
ในใจกะจะมาทานโจ๊กเสวย เพราะครั้งที่แล้วพลาดไป
เห็นป้ายผ้าแสดงอย่างชัดเจนจึงเดินเข้าไป แต่ปรากฏว่า ปิด
เราจึงหาอาหารร้านอื่นทานแทน
มาถึงจุดที่ทางหลวงแผ่นดินทั้งสองเส้นทางบรรจบกันแล้ว
ด้านซ้ายไปแม่สะเรียงด้วยเส้น 108 ส่วนด้านขวาไปปายด้วยเส้น
1095 เราเดินไปทางซ้ายเพื่อหาเช่ารถจักรยานยนต์ ไม่นานก็เจอร้านให้เช่า
คิวแรกก่อนหน้าเราจะเป็นสองนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เราได้
Honda Dream รุ่นฮิตของที่นี่ สนนราคา 150 บาท/วัน โดยโดนยึดบัตรประชาชนไป
ไม่แพงครับ เมื่อเปรียบเที่ยบเมื่อตอนเช่าขี่ที่ภูเก็ต
พอได้ยานพาหนะคู่กาย สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือเติมน้ำมันเต็มถังเพื่อตระเวนในตัวเมืองก่อนจะไปยังบ้านรวมไทย
มาเมืองสามหมอกไม่ลืมที่จะไปเคารพเจ้าผู้ครองนครแห่งนี้เป็นคนแรกก็คือพญาสิงหนาทราชา ท่ายืนถือดาบดั้งเด่นเป็นสง่า สีทองสะท้อนแสงแดดดีทีเดียว
ต่อจากนั้น เราขี่รถไปยังวัดจองกลางจองคำ
สิ่งแรกที่ทำคือนมัสการหลวงพ่อโตทางด้านซ้ายมือ
|