สวนสนริมอ่างเก็บน้ำ มาครั้งนี้ต้นไม้และหญ้าค่อนข้างแห้งแล้งผิดกับเดือนพฤศจิกายนที่ยังชุ่มชื้นสีเขียวสด
แนวสนที่มีระยะห่างเท่าๆกันแลดูสวยงามนี้แหล่ะจะมีใครรู้บ้างว่าเกิดจากผลงานส่วนหนึ่งของลุงปาละเมื่อ
20 ปีที่แล้ว โดยลุงได้เล่าว่าต้องใช้เชือกรังวัดระยะห่างให้เท่าๆกันก่อนจะลงปลูกต้นสน
ตามที่ทางการสมัยนั้นได้ให้ชาวบ้านมาช่วยกันสร้างและปลูกต้นไม้
เป็นผลให้เราๆเห็นแนวสนยาวและมีระยะห่างเท่าๆกันสวยงามตาเมื่อปลูกอยู่ริมอ่างเก็บน้ำ
ใบสน กับ ท้องฟ้า
เดินมาเรื่อยๆริมอ่างเก็บน้ำ เห็นกาฝากชนิดหนึ่งขึ้นบนลำต้นของต้นสน
ยามเย็นๆ ณ ริมน้ำ ช่างมีความสุขจริงๆ ผู้คนไม่พลุกพล่าน
สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ได้เกิดขึ้นจากการปรุงแต่งแต่อย่างใด
เราเดินเรื่อยเปื่อยมาที่ลานกางเต้นท์และที่ทำการโครงการพระราชดำริปางตอง
๒(ปางอุ๋ง)
ณ วันนี้ แหงนมองบนฟ้า โชคดีได้เห็นดวงจันทร์ด้วย
ผมชอบเสาธงที่นี่ ดูใหญ่โต และแข็งแรงดีจัง
เดินเข้าไปสำรวจใกล้ๆ พบเจอแต่ดอกไม้เมืองเหนือสีสันสวยงามตา
รองเท้านารี
แสงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว เราจึงขี่รถกลับมาที่พักพักของลุงปาละอีกครั้ง
อากาศเย็นเริ่มมาแทนที่ ทำให้ลุงต้องนำฟืนมาจุดไฟเพื่อเพิ่มความอุ่นให้กลับอากาศรอบข้าง
บรรยากาศในบ้านเริ่มคึกคักมากขึ้น เนื่องจากมีทั้งลูกชายและลูกสาวที่ไปเรียนหนังสือในกรุงเทพกลับมาเยี่ยมบ้าน
ความที่อยากเก็บบรรยากาศตอนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปที่อ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง
ทำให้ผมต้องขี่มอเตอร์ไซด์ออกไปอีกครั้งเพื่อเก็บภาพนี้ให้ได้
จากนั้นจึงย้อนกลับมาที่พักอีกครั้งพร้อมกับอาบน้ำที่ลุงปาละต้มให้
คลายความสกปรกทั้งวันไปได้ดีทีเดียว จากนั้นก็ถึงเวลาทานอาหารเย็นกับครอบครัวลุงปาละและพี่ศรี่
เกือบสามทุ่มจึงได้แยกย้ายไปนอน วันนี้จึงได้สิ้นสุดเพียงเท่านี้
|