Date : February |19| |20|, 2005


19 กุมภาพันธ์ 2548 ... Part |1| |2| |3| |4|

         ทริปนี้เป็นอีกทริปหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ความที่ผมประทับใจบ้านรวมไทยหรือปางอุ๋งที่ใครๆในขณะนี้รู้จักกันมากขึ้นแล้วในปลายปี 46 ทำให้เกิดทริปนี้โดยมีเวลาแค่ 2 วันคือเสาร์-อาทิตย์ที่ 19 และ 20 กุมภาพันธ์ ต้นปีที่ผ่านมา จึงเจาะจงเฉพาะบ้านรวมไทยอย่างเดียว แต่เพื่อเป็นการลดระยะเวลาการเดินทาง ทำให้ต้องใช้บริการ Low Cost รายหนึ่งจากกทม.มายังเชียงใหม่ และนั่งเครื่องการบินไทยจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนอีกทีหนึ่ง

 

วันนั้นสายการบิน Low Cost ที่ผมนั่งดีเลย์ 1 ชม. ดีที่เวลาเครื่องจากชม.ไปแม่ฮ่องสอนออกช้ากว่าเครื่องที่ไปถึงพอประมาณ ทำให้การต่อเครื่องครั้งนี้หวุดหวิดทีเดียว
ได้เวลาเครื่องออกแล้วครับ เสียงเจ้าหน้าที่เรียกเพื่อเช็ค boarding pass ตามเวลาที่เครื่องออกประมาณ 9.00 น.

 

เครื่องที่จะพาเราบินไปเมืองสามหมอกซึ่งจะผ่านขุนเขาอันมากมายนี้เป็นเครื่องแบบใบพัด ผมเองไม่มีความรู้เรื่องเครื่องบินเลยไม่ทราบว่ารุ่นอะไร เที่ยวบินนี้มีชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่ คนไทยเองประปราย ชาวต่างชาติที่ว่าพอฟังสำเนียงการคุยก็ทราบได้ว่าเป็นชาวฝรั่งเศส มากันเป็นคณะท่องเที่ยว

 


เส้นทางนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที อากาศเช้ายามนี้ทำให้มองลงไปเห็นสายหมอกปกคลุมผืนเขาเต็มไปหมด

 

ขุนเขาน้อยใหญ่เรียงตัวสูงบ้างต่ำบ้าง พอไกลออกไปก็จะเห็นสายหมอกที่ปกคลุมไว้

 

9:32 นาที เครื่องบินแบบใบพัดก็เตรียมพาเราบินลงจอดที่สนามบินแม่ฮ่องสอน นอกหน้าต่างมองเห็นทางหลวงหมายเลข 108 และบ้านเรือนรอบค้างอย่างชัดเจน

 

ลงจอดแล้วครับ มองจากสนามบินด้านบนเขาจะเห็นพระธาตุดอยกองมูตั้งเด่นเป็นสง่า

 

เราเดินดุ่มๆเข้ามาภายในตัวอาคารผู้โดยสารขาเข้าของสนามแม่ฮ่องสอนแห่งนี้  โดยรอบตกแต่งสวยงามตามสถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่ที่ฝังรากลึกในเมืองสามหมอกแห่งนี้

 

ใครคุ้นเคยกับแม่ฮ่องสอนมาก่อนก็จะทราบว่า สนามบินนั้นอยู่ติดกับตัวเมืองเลย จึงไม่จำเป็นที่จะว่าจ้างรถถ้ายังมีกำลังขาอยากออกกำลังกายตอนสายๆแบบนี้ เราจึงเลือกที่จะเดินมายังตัวเมืองผ่านตลาดเช้า หาอะไรรองท้องก่อนจะเดินต่อไป
ป้ายบอกทางไม้แบบนี้ ถ้าใครขับรถมาจะรู้ได้ว่ามองลำบากมาก เพราะตัวหนังสือและสีพื้นตัดกันไม่ชัดเจน จากป้ายเราเดินเลี้ยวขวาเพื่อไปยังตลาดสด

 

ในใจกะจะมาทานโจ๊กเสวย เพราะครั้งที่แล้วพลาดไป เห็นป้ายผ้าแสดงอย่างชัดเจนจึงเดินเข้าไป แต่ปรากฏว่า ปิด เราจึงหาอาหารร้านอื่นทานแทน

 

มาถึงจุดที่ทางหลวงแผ่นดินทั้งสองเส้นทางบรรจบกันแล้ว ด้านซ้ายไปแม่สะเรียงด้วยเส้น 108 ส่วนด้านขวาไปปายด้วยเส้น 1095 เราเดินไปทางซ้ายเพื่อหาเช่ารถจักรยานยนต์ ไม่นานก็เจอร้านให้เช่า คิวแรกก่อนหน้าเราจะเป็นสองนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เราได้ Honda Dream รุ่นฮิตของที่นี่ สนนราคา 150 บาท/วัน โดยโดนยึดบัตรประชาชนไป ไม่แพงครับ เมื่อเปรียบเที่ยบเมื่อตอนเช่าขี่ที่ภูเก็ต

 

พอได้ยานพาหนะคู่กาย สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือเติมน้ำมันเต็มถังเพื่อตระเวนในตัวเมืองก่อนจะไปยังบ้านรวมไทย
มาเมืองสามหมอกไม่ลืมที่จะไปเคารพเจ้าผู้ครองนครแห่งนี้เป็นคนแรกก็คือพญาสิงหนาทราชา ท่ายืนถือดาบดั้งเด่นเป็นสง่า สีทองสะท้อนแสงแดดดีทีเดียว

 

ต่อจากนั้น เราขี่รถไปยังวัดจองกลางจองคำ สิ่งแรกที่ทำคือนมัสการหลวงพ่อโตทางด้านซ้ายมือ

       
  Continue to Part 2